Advertisement
Home How to วิธีปลูกตะไคร้ อินทรีย์

วิธีปลูกตะไคร้ อินทรีย์

วิธีการปลูกตะไคร้
Cr images : pixabay.com

วิธีการปลูกตะไคร้ อินทรีย์

ะไคร้ถือว่าเป็นพืชอีกชนิดหนึงที่นิยมนำไปทำเครื่องแกง เป็นพืชที่มีลักษณะเป็นน้ำมันหอมระเหย ใบสามารถนำไปทำชาพร้อมดื่มหรือนำไปสกัดเอาน้ำมันหอมระเหยไปใช้ในงานสปาหรือไล่ยุงได้ ส่วนหัวตะไคร้เป็นส่วนสำคัญและเป็นที่ต้องการในท้องตลาด การขายปลีกจะเห็นได้จากการขายเป็นมัด ๆ ละ 2-3 หัว หรือแม้กระทั่งการขายเหมาสวนก็จะขายทีละหลายร้อยกิโลกรัมก็มี

        ตะไคร้ถือเป็นพืชนอกกระแสที่กำลังจะเข้ามาอยู่ในกระแส สังเกตได้จากข่าวคราวการปลูกตะไคร้ส่งออกต่างประเทศอยู่เนือง ๆ ในไทยเองก็ไม่แพ้กันที่มีการส่งเข้าห้างโมเดิร์นเทรดขนาดใหญ่ ส่งเข้าโรงงานเครื่องแกงและตลาดค้าส่งขนาดใหญ่ แม้แต่ตลาดสดแถวบ้านเราก็จะได้เห็นตะไคร้ถูกมัดติดกับข่าใบมะกรูดสำหรับทำเป็นเครื่องต้มยำ ถึงแม้เราจะไม่สามารถรับประทานตะไคร้เพียว ๆ ได้ (คงไม่มีใครยืนกัดตะไคร้ทานเล่นนะครับ ฮา..) แต่ก็มีความจำเป็นไม่ใช่น้อยกับอาหารไทยที่ต้องการกลิ่นและรสชาติของตะไคร้เพื่อมาดับกลิ่นคาวพร้อมกับเพิ่มรสชาติให้กับอาหาร

        ในวันนี้ผมจะมาแนะนำวิธีการปลูกตะไคร้ ปลูกง่ายขนาดที่ว่าคนที่ไม่เคยปลูกนำหัวตะไคร้ไปปักไว้ข้างบ้าน รอไม่นานเราก็จะมีตะไคร้ไว้ทานโดยไม่ต้องไปซื้อที่ตลาดแล้วล่ะครับ โดยพันธุ์ที่นิยมปลูกคือพันธุ์เกษตร พันธุ์หยวกหรืออาจจะเป็นพันธุ์พื้นบ้านการสามารถหามาปลูกได้ตามสะดวกครับ

        สิ่งที่เราต้องเตรียมคือพันธุ์ตะไคร้ เมื่อได้มาแล้วก็นำมาเด็ดหัวตะไคร้ออกจากกันโดยให้ส่วนของรากติดมาด้วย เพราะเราจะมีการปลูกหลุ่มละ 1-2 หัวเท่านั้น ก่อนปลูกอาจนำหัวตะไคร้ที่เด็ดออกไปแช่น้ำผสมกับหัวเชื้อไตรโครเดอร์มาเพื่อป้องกันเชื้อราที่ติดมากับแปลงเดิม อาจใช้กรรไกรหนีบส่วนรากขึ้นมาให้เหลือเฉพาะแก่นเพื่อเป็นการตัดวงจรโรค

Advertisement

 

    การปลูกตะไคร้อินทรีย์อย่างมืออาชีพ

    1. การเลือกพื้นที่ปลูก

       – เลือกพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึง 6-8 ชั่วโมงต่อวัน

       – ดินควรระบายน้ำได้ดี มีความอุดมสมบูรณ์

       – หลีกเลี่ยงพื้นที่น้ำท่วมขัง

    2. การเตรียมดิน

       – ขุดดินลึกประมาณ 30 เซนติเมตร

       – ผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักอินทรีย์ในอัตราส่วน 1:1

       – ปรับสภาพดินให้มีค่า pH ประมาณ 5.5-7.5

    3. การเตรียมต้นพันธุ์

       – เลือกหน่อตะไคร้ที่แข็งแรง สูงประมาณ 15-20 เซนติเมตร

       – ตัดใบออกให้เหลือแต่ลำต้น

       – แช่หน่อในน้ำสะอาดประมาณ 1-2 วันเพื่อกระตุ้นการแตกราก

    4. การปลูก

       – ขุดหลุมลึกประมาณ 10 เซนติเมตร

       – วางหน่อตะไคร้ลงในหลุม กลบดินให้แน่น

       – รดน้ำให้ชุ่ม

       – ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 30-40 เซนติเมตร

    5. การดูแลรักษา

       – รดน้ำสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการปลูก

       – ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ทุก 1-2 เดือน

       – กำจัดวัชพืชโดยการถอนด้วยมือหรือใช้วัสดุคลุมดิน

       – ตัดแต่งใบแห้งและลำต้นที่แก่เกินไปออก

    6. การป้องกันและกำจัดศัตรูพืชแบบอินทรีย์

       – ใช้สมุนไพรไล่แมลง เช่น สะเดา ข่า ตะไคร้หอม

       – ปลูกพืชสมุนไพรแซมเพื่อไล่แมลง

       – ใช้กับดักกาวเหนียวดักแมลง

       – ส่งเสริมศัตรูธรรมชาติ เช่น แมลงตัวห้ำ ตัวเบียน

    7. การเก็บเกี่ยว

       – เริ่มเก็บเกี่ยวได้เมื่อตะไคร้อายุประมาณ 4-6 เดือน

       – ตัดลำต้นที่มีความสูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร

       – เก็บเกี่ยวในช่วงเช้าเพื่อให้ได้กลิ่นหอมที่สุด

    8. การแปรรูปและการเก็บรักษา

       – ล้างทำความสะอาดและตัดแต่งส่วนที่ไม่ต้องการออก

       – หั่นเป็นท่อนสั้นๆ สำหรับใช้ประกอบอาหาร

       – ตากแห้งหรืออบแห้งเพื่อเก็บรักษาได้นานขึ้น

       – บดเป็นผงสำหรับชงเป็นเครื่องดื่มสมุนไพร

    ตัวอย่างการแปรรูปตะไคร้

    8.1) ชาตะไคร้

       – หั่นตะไคร้เป็นชิ้นบางๆ อบแห้งที่อุณหภูมิ 50-60°C

       – บรรจุในถุงชาหรือขวดแก้วสุญญากาศ

       – สามารถเพิ่มสมุนไพรอื่นๆ เช่น ขิง ใบเตย เพื่อเพิ่มรสชาติ

    8.2) น้ำมันหอมระเหยตะไคร้

       – ใช้วิธีการกลั่นด้วยไอน้ำ (Steam distillation)

       – บรรจุในขวดแก้วสีชาขนาดเล็ก

       – ใช้ในอโรมาเธอราพีหรือผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

    8.3) ผงตะไคร้

       – อบแห้งตะไคร้ที่อุณหภูมิต่ำ (40-50°C) เพื่อรักษากลิ่นและสารสำคัญ

       – บดละเอียดด้วยเครื่องบดสมุนไพร

       – บรรจุในขวดแก้วหรือถุงซิปล็อคป้องกันความชื้น

    8.4) เครื่องดื่มตะไคร้พร้อมดื่ม

       – ต้มตะไคร้กับน้ำ เติมน้ำตาลหรือน้ำผึ้งตามต้องการ

       – กรองและบรรจุขวดแบบพาสเจอร์ไรซ์

       – เพิ่มรสชาติด้วยมะนาวหรือสมุนไพรอื่นๆ

    8.5) แคปซูลสารสกัดตะไคร้

       – สกัดสารสำคัญจากตะไคร้ด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์

       – บรรจุในแคปซูลเจลาตินหรือแคปซูลผัก

       – จำหน่ายเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

    8.6) เจลทาผิวสารสกัดตะไคร้

       – ผสมสารสกัดหรือน้ำมันหอมระเหยตะไคร้ในเจลอะโลเวรา

       – บรรจุในหลอดหรือขวดปั๊ม

       – ใช้บรรเทาอาการปวดเมื่อยหรือไล่ยุง

    8.7) สบู่ตะไคร้

       – ผสมผงตะไคร้หรือน้ำมันหอมระเหยในสบู่ธรรมชาติ

       – หล่อแบบและตัดเป็นก้อน

       – บรรจุในกล่องกระดาษรักษ์โลกพร้อมฉลาก

    8.8) เทียนหอมตะไคร้

       – ผสมน้ำมันหอมระเหยตะไคร้ในขี้ผึ้งธรรมชาติ

       – หล่อในแก้วหรือภาชนะที่ต้องการ

       – ตกแต่งด้วยชิ้นตะไคร้แห้งเพื่อความสวยงาม

    8.9) ครีมนวดตะไคร้

       – ผสมน้ำมันหอมระเหยตะไคร้ในครีมนวดฐานธรรมชาติ

       – บรรจุในหลอดหรือกระปุก

       – ใช้นวดเพื่อผ่อนคลายและบรรเทาอาการปวดเมื่อย

    8.10) ตะไคร้ดองน้ำผึ้ง

       – หั่นตะไคร้เป็นท่อนสั้นๆ แช่ในน้ำผึ้งบริสุทธิ์

       – หมักทิ้งไว้ 2-4 สัปดาห์ในที่เย็นและมืด

       – บรรจุในขวดแก้วพร้อมฉลาก ใช้ชงเป็นเครื่องดื่มสมุนไพร

    การแปรรูปตะไคร้เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เหล่านี้ไม่เพียงช่วยยืดอายุการเก็บรักษา แต่ยังเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตร สร้างความหลากหลายในการใช้ประโยชน์ และเพิ่มโอกาสทางการตลาดอีกด้วย ทั้งนี้ ควรคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัยและข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แต่ละประเภทด้วย​​​​​​​​​​​​​​​​

    9. ประโยชน์ของตะไคร้อินทรีย์

    ตะไคร้เป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพและความงาม แต่ละส่วนของต้นตะไคร้ล้วนมีคุณค่าและสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย มาดูกันว่าแต่ละส่วนของตะไคร้มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

    9.1) ส่วนลำต้น (ต้นอ่อน)

       – ใช้ประกอบอาหาร เพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติ

       – ช่วยขับลม แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ

       – มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอวัย

       – ช่วยลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน

       – กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด

    9.2) ส่วนใบ

       – ใช้ต้มดื่มเป็นชาสมุนไพร ช่วยลดไข้

       – มีสรรพคุณขับเหงื่อ ช่วยลดอุณหภูมิร่างกาย

       – ใช้พอกแก้อาการปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ

       – ช่วยบรรเทาอาการหวัด ไอ และระคายคอ

       – มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา

    9.3) ส่วนราก

       – ใช้ต้มดื่มเพื่อช่วยขับปัสสาวะ

       – มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ลดอาการบวม

       – ช่วยบำรุงไต และระบบทางเดินปัสสาวะ

       – ใช้เป็นยาพื้นบ้านรักษาโรคนิ่วในไต

       – มีสรรพคุณช่วยลดความดันโลหิต

    9.4) ส่วนเหง้า

       – อุดมไปด้วยน้ำมันหอมระเหยที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง

       – ใช้ขูดผสมกับน้ำผึ้งเพื่อบรรเทาอาการไอ

       – นำมาบดเป็นผงใช้พอกหน้า ช่วยลดการอักเสบของสิว

       – ใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ช่วยให้ผิวกระจ่างใส

       – มีฤทธิ์ต้านเชื้อรา สามารถใช้รักษาโรคผิวหนังบางชนิด

    9.5) ส่วนดอก (หากมี)

       – ใช้ตกแต่งอาหารเพื่อเพิ่มความสวยงาม

       – มีรสเผ็ดร้อนเล็กน้อย ใช้เพิ่มรสชาติให้อาหาร

       – อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ

       – ใช้ในพิธีกรรมบางอย่างในวัฒนธรรมท้องถิ่น

       – นำมาตากแห้งใช้ในงานประดิษฐ์หรือจัดช่อดอกไม้แห้ง

    9.6) น้ำมันหอมระเหย (สกัดจากทุกส่วน)

       – ใช้ในอโรมาเธอราพี ช่วยผ่อนคลายความเครียด

       – มีฤทธิ์ไล่แมลง โดยเฉพาะยุงและแมลงวัน

       – ใช้นวดเพื่อบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ

       – ช่วยบำรุงผิวพรรณ ลดการอักเสบของผิวหนัง

       – เพิ่มความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เมื่อสูดดม

    9.7) กากใยตะไคร้ (ส่วนที่เหลือจากการคั้นน้ำ)

       – ใช้เป็นส่วนผสมในการทำสครับขัดผิว

       – นำไปทำปุ๋ยหมักเพื่อบำรุงดิน

       – ใช้เป็นวัสดุคลุมดินในการเพาะปลูก ช่วยรักษาความชื้น

       – นำมาอัดเป็นแผ่นใช้ทำบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

       – ใช้เป็นส่วนผสมในอาหารสัตว์ เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและคุณค่าทางอาหาร

    การใช้ประโยชน์จากทุกส่วนของตะไคร้นอกจากจะช่วยลดการสูญเสียและเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตแล้ว ยังเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและยั่งยืนอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ก่อนนำตะไคร้ไปใช้ในทางการแพทย์หรือเพื่อรักษาโรค ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนเสมอ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือกำลังตั้งครรภ์

    10. การตลาดและการสร้างมูลค่าเพิ่ม

        – จำหน่ายเป็นตะไคร้สดในตลาดท้องถิ่นหรือตลาดออนไลน์

        – แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ชาตะไคร้ น้ำมันหอมระเหย

        – สร้างแบรนด์สินค้าเกษตรอินทรีย์

        – ทำการตลาดออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดีย

    บทสรุป : ตะไคร้อินทรีย์ – สมุนไพรมหัศจรรย์แห่งอนาคต

    การปลูกตะไคร้อินทรีย์เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับเกษตรกรและผู้สนใจเกษตรยั่งยืน ด้วยกระบวนการปลูกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การเลือกพื้นที่ที่เหมาะสม การเตรียมดินด้วยปุ๋ยอินทรีย์ ไปจนถึงการดูแลรักษาและป้องกันศัตรูพืชโดยไม่ใช้สารเคมี ทำให้ได้ผลผลิตที่ปลอดภัยและมีคุณภาพสูง

    ตะไคร้ทุกส่วนล้วนมีประโยชน์ ทั้งลำต้น ใบ ราก เหง้า และแม้แต่ดอก สามารถนำมาใช้ในการประกอบอาหาร ทำเครื่องดื่มสมุนไพร หรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น น้ำมันหอมระเหย ผงตะไคร้ และเครื่องสำอาง การสร้างมูลค่าเพิ่มผ่านการแปรรูปและการตลาดที่ชาญฉลาด ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแบรนด์สินค้าเกษตรอินทรีย์ การขยายช่องทางจำหน่ายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ หรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ล้วนช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับเกษตรกร 

    นอกจากนี้ การใช้ประโยชน์จากทุกส่วนของตะไคร้ยังสอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน ลดการสูญเสีย และสร้างความยั่งยืนในระยะยาว ด้วยคุณประโยชน์ที่หลากหลายทั้งด้านสุขภาพ ความงาม และการใช้งานในชีวิตประจำวัน ตะไคร้อินทรีย์จึงไม่เพียงแต่เป็นสมุนไพรที่มีคุณค่า แต่ยังเป็นพืชเศรษฐกิจที่มี

     

    ส่วนวิธีการปลูกสามารถดูเพิ่มเติมได้จากวิดีโอด้านล่างนี้ครับ

    ขั้นตอนวิธีการปลูกตะไคร้

     

    สรุป การปลูกตะไคร้อินทรีย์นอกจากจะได้ผลผลิตที่มีคุณภาพแล้ว ยังเป็นการทำเกษตรที่ยั่งยืน ช่วยรักษาสมดุลของระบบนิเวศ และสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับครอบครัวและชุมชน หากคุณสนใจทำเกษตรอินทรีย์ การปลูกตะไคร้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ลองนำความรู้จากบทความนี้ไปประยุกต์ใช้ แล้วคุณจะพบว่าการปลูกตะไคร้อินทรีย์นั้นไม่ยากอย่างที่คิด​​​​​​​​​​​​​​​​

    Advertisement

    NO COMMENTS

    LEAVE A REPLY

    Please enter your comment!
    Please enter your name here

    Exit mobile version