เกษตร 4.0 ยุคที่เกษตรกรไทยต้องรู้ !
อัพเดทบทความใหม่ > เกษตร 4.0 : การปฏิวัติภาคการเกษตรไทย กับจุดเด่นและจุดด้อย คลิกเลย!
เมื่อกลางปี 2559 ที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้ออกนโยบายหนึ่งออกมา ซึ่งผมเห็นว่าเป็นนโยบายที่สนับสนุนวงการเกษตรแบบพลิกแนวคิดไปเลย ที่ผมให้ความสนใจนั้นคือไม่ใช่นโยบายที่พยุงราคาผลผลิตพืชเกษตรอย่างที่แล้ว ๆ มาแต่อย่างใด แต่เป็นนโยบายที่ปรับเปลี่ยนวิธีคิดการทำเกษตรแบบเดิมไปเลย นั่นก็คือ Thailand 4.0
แล้วกว่าจะมาถึงยุค 4.0 เราผ่านยุคอะไรมาบ้าง
- ยุค 1.0 เน้นการเกษตรเป็นหลัก ผลิตและขายพืชไร่ พืชสวน ส่วนมากเป็นพืชเชิงเดี่ยว
- ยุค 2.0 เน้นอุตสาหกรรมเบา
- ยุค 3.0 เน้นอุตสาหกรรมหนักและการส่งออก
- ยุค 4.0 เน้นเศรษฐกิจขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม Value-Based Economy
แนะนำทำความเข้าใจกับแต่ละยุคก่อน (อธิบายครบ จบในคลิปเดียว)
ทีนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าในยุค Thailand 4.0 จะเน้นในเรื่องอะไรบ้าง
- กลุ่มอาหาร เกษตร และเทคโนโลยีชีวภาพ (จะเห็นได้ว่าการทำเกษตรกรรมอยู่ในข้อ 1 เลย)
- กลุ่มสาธารณสุข สุขภาพ และเทคโนโลยีทางการแพทย์
- กลุ่มเครื่องมืออุปกรณ์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ และระบบเครื่องกลที่ใช้อิเล็กทรอนิกส์ควบคุม
- กลุ่มดิจิตอล เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเชื่อมต่อและบังคับอุปกรณ์ต่างๆ ปัญญาประดิษฐ์และทคโนโลยีสมองกลฝังตัว
- กลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ วัฒนธรรม และบริการที่มีมูลค่าสูง
ยุคเกษตร 4.0 อ้างอิงคำพูดของนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กล่าวว่าได้วางแผนระยะยาวไว้ 10 ข้อดังนี้
- ส่งเสริมเกษตรกรให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่าย
- เพิ่มศักยภาพการผลิตสินค้าเกษตรให้เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ
- คิดค้นและพัฒนานวัตกรรมรวมถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัย
- แก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกร
- พัฒนาปรับปรุงกฎระเบียบที่มีอยู่ให้ทันสมัย
- เน้นทำปศุสัตว์แปลงใหญ่ให้ความสำคัญกับอาหารสุขภาพ
- เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร
- ปรับการผลิตให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- เน้นทำวิจัยและพัฒนาเพิ่มขึ้น
- บูรณาการการทำงานร่วมกันในทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ครอบคลุมทุกมิติ
ความคิดเห็นส่วนตัว
ในส่วนของผมนั้นจะขอพูดถึงด้านการเกษตรเป็นหลักครับ เกษตรกรในปัจจุบันจะปลูกแต่พืชเชิงเดี่ยว ไม่ว่าจะเป็น อ้อย มันสัมปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพารา ปาล์ม ฯ
ข้อเสียของการปลูกพืชเชิงเดี่ยวคือเสี่ยงต่อการขาดทุนถ้าราคาตกต่ำ ถ้าพูดถึงราคาผลผลิตยิ่งแล้วใหญ่ ดิ่งลงอย่างมากเมื่อเทียบกับค่าแรง น้ำมัน ปุ๋ยยาที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่มีทีท่าว่าจะลดลง และเป็นการดีที่ภาครัฐได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของภาคการเกษตรที่หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนและประเทศนี้มาอย่างยาวนาน
การทำเกษตร 4.0 เป็นการพลิกแนวคิดของเกษตรที่จะต้องมีองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี การแปรรูป และการทำตลาดเองควบคู่กันไปด้วย อีกโครงการหนึ่งที่ผมเห็นว่าดีคือ โครงการ Young smart farmer ที่ได้ทำการคัดเลือกเยาวชนผู้ที่สนใจในการทำเกษตรมาเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนการทำเกษตรยุค 4.0 ไปด้วยอีกทางหนึ่ง
เน้นจากคนรุ่นใหม่ในการพาเกษตรกรรุ่นพ่อแม่มาทำการเกษตรแบบสมัยใหม่ ซึ่งเกษตร 4.0 เน้นการบริหารจัดการโดยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เช่นการใช้แอพพลิเคชันตรวจสอบความชื้น ความอุดมสมบูรณ์ของดินและสภาพอากาศ เป็นต้น
จากเกษตรกรธรรมดาเปลี่ยนมาเป็นผู้ประกอบการธุรกิจด้านเกษตร สร้างแบรนด์ ปลูกเอง ขายเอง ทำตลาดเอง มี Story ที่ใช้ในการเพิ่มมูลค่าสินค้า มีการวางแผนจดบันทึกการเพาะปลูกในครั้งต่อไป
ทั้งหมดนี้เพื่อให้เป็นเกษตรกรที่สามารถพึ่งพาตนเองได้และมีรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้น สุดท้ายก็มาร่วมกันสร้างเครือข่ายสังคมเกษตรให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และแบ่งปันเพื่อนำสิ่งที่งดงามกลับคืนสู่สังคม
ถ้าเพื่อน ๆ เข้ามาอ่านบทความนี้แสดงว่ามีความสนใจในการทำเกษตรอยู่ไม่มากก็น้อย แล้วเพื่อน ๆ ตอนนี้เตรียมพร้อมรึยังที่จะเข้าสู่ยุคเกษตร 4.0 ผมว่าเตรียมตัวไว้บ้างก็ดีนะครับ จะได้มาเป็นอีกแรงที่ร่วมกันผลักดันยุคเกษตร 4.0 ให้กลายเป็นความจริง ผมหวังไว้อย่างนั้นจริง ๆ
บทความย่อมมีที่มา จากบทความ